สามพระนาง เพื่อน วาววา อาโป ยอมรับบทโหดหินยากสุด ในไข่มุกมังกรไฟ

                   ปล่อยทีเซอร์ให้ฮือฮากันไปแล้วสำหรับ “ไข่มุกมังกรไฟ”  พร้อมระเบิดความมันส์ทั้งประเทศตอนแรก ศุกร์ 5 มกรา 2 ทุ่มตรง เรื่องราวของเหล่ามังกรห้ำหั่นแย่งชิงอำนาจและความรัก กับการพลิกบทบาทครั้งแรกของพระเอก เพื่อน คณินที่รับบทดราม่า แอ็กชั่น  เป็นเรย์ เจ้าพ่อยาเสพติดที่เลือกเดินบนเส้นทางบาปเพื่อรักษาชีวิตคนรัก ทั้งรักทั้งเข้มปกป้อง วาววา ณิชารีย์ น้องสาวต่างสายเลือด ไข่มุกเม็ดงามของตระกูลและเป็นหัวใจของแดนไท ตำรวจปราบปรามยาเสพติด รับบทโดยอาโป ณัฐวิญญ์  ต้องลุ้นว่าความรักที่เริ่มต้นจากมิตรภาพจะจบลงที่น้ำตาของใคร  งานนี้ทั้งเพื่อนกับอาโปต้องไล่ล่ากันเองทั้งความรักและหน้าที่ เพิ่มความเดือดทะลุปรอทเข้าไปเมื่อ เดี่ยว  สุริยนต์ รับบทอาหลาง คู่แค้นของเพื่อนและอาโป รุ่นเล็กน่าดูแล้วอาตู่ยังจัด รุ่นพี่อย่าง อู๋ ธนากร อั๋น วิทยามาปะทะกับรุ่นน้อง เรียกว่าไม่มีใครออมฝีมือ แถมขึ้นชื่อละครเป่าจินจงต้องคืนกำไรคนดูทุกเรื่อง การันตีความสวยของโลเคชั่นวิวไร่ชาและยอดดอยสุดโรแมนติกของภาคเหนือทั้งเรื่อง 

                   ท่ามกลางการขับเคี่ยวแย่งชิงอำนาจของเหล่ามังกร ไข่มุกงามอย่าง วาววา ก็ต้องรับบทหนักไม่น้อยหน้า ในบทเจนเนตรที่ต้องเลือกความรักจากพ่อค้ายาหรือตำรวจ  ถึงขนาดวาววาออกปากว่าบทเจนเนตรคือบทดราม่าหนักสุดในชีวิต เพราะเป็นตัวละครที่ชีวิตพลิกผันอยู่บนเกมส์แห่งอำนาจ ทำให้เจนเนตรต้องเจอทั้งการทรมานด้วยไฟ  น้ำแข็งเย็นจัด  สัตว์น่าหวาดเสียวอย่างงู ซึ่งวาววานางเอกสายสตรองก็ไม่หวั่นเล่นจริงด้วยตัวเองได้สมใจผู้กำกับ 

                  เพราะมีแอ็กชั่นเดือดกันทุกตอน อาตู่ นพพล ผู้กำกับต้องการความสมจริงและสมบทบาท เลยส่งนักแสดงในเรื่อง เพื่อน คณิน  อาโป ณัฐวิญญ์  อั๋น วิทยา โบว์ เบญจวรรณ  บอย ภาสกร ทุ่มเทซ้อมคิวบู๊ก่อนเปิดกล้องนานกว่า 3 เดือนกับทีมครูฝึกและทีมสตั๊นท์มืออาชีพ งานนี้ได้เหงื่อ ได้แผล แต่ไม่มีใครถอย  พอเปิดกล้องอาตู่เลยขอทดสอบฝีมือ  ขนทัพนักแสดงนักบู๊ขึ้นดอยถ่ายแอ็คชั่นฉากใหญ่กลางสี่แยกดอยแม่สลอง จ.เชียงราย เป็นฉากเรย์ (เพื่อน คณิน) กับอาหลาง (เดี่ยว สุริยนต์)  ดริฟท์รถมาเจอกัน ก่อนจะจัดหนักซัดคิวบู๊โชว์ แค่ฉากเดียวเรียกว่าเหงื่ออาบร่างทั้งเพื่อนและเดี่ยวเพราะถ่ายทำท่ามกลางแดดร้อนกว่า 4  ชั่วโมง

                นอกจากความรัก ดราม่าเข้มข้นแล้ว ยังมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติดทางภาคเหนือ  บทหนักจึงเป็นหน้าที่ของพระเอกอีกคน  อาโป ณัฐวิญญ์ ที่สะท้อนจิตวิญญาณตำรวจ ปีนรถไล่จับยาบ้า  อาโปฟิตสุดๆขอเล่นเอง  เรียกความตื่นเต้นให้ทีมงาน แต่อาโปบอกมั่นใจเกินร้อยเพราะอาตู่สั่งทีมสตั๊นท์เซฟตี้อย่างดี ถือเป็นฉากไล่ล่าหวาดเสียวที่ห้ามกะพริบตา ก่อนอาโปจะโชว์แมนอีกรอบ ช่วยวาววาไว้ด้วยท่าสลับเข่าโขกกลางอากาศสุดสวย เรียกว่าแอ็กชั่นหล่อชวนรักตั้งแต่แรกเจอ 

                ครบทั้งระเบิด มีด ไม้ปืนที่ขนมาหนักทุกตอนแล้ว  อาตู่ นพพล ผู้กำกับยังไม่สาแก่ใจพอเนื้อเรื่องเกี่ยวกับแม่น้ำโขง  ผู้กำกับเลยจัดให้สามพระนาง เพื่อน วาววา อาโป กระโดดแม่น้ำโขงที่ทั้งเชี่ยวทั้งลึกให้สะใจคนดูในฉากถล่มเรือพ่อค้ายาเสพติดกันอีก  เรียกว่าละครเรื่องเดียว ได้เล่นครบเครื่องทุกฉากทั้งรัก ดราม่า แอ็กชั่น จำชื่อละครเป่าจินจงกันไปอีกนาน

               งานหินงานโหดขนาดนี้เป่าจินจงเลยขอจับสามพระนาง เพื่อน วาววา อาโปมานั่งคุยกันว่าหนักสาหัสแค่ไหนกับการเป็นตัวละคร

                เพื่อน คณิน  ชอบประดิถ  เป็น เรย์ 

               เรย์เป็นผู้ชายอบอุ่น  แต่ทุกคนจะดูว่าเรย์เป็นคนโหดร้าย เพราะเป็นพ่อค้ายาเสพติดถูกพ่อเจนเนตรเก็บมาเลี้ยง  แต่พออยู่กับเจนเนตร  เราจะกลายเป็นอีกคนนึง  มันเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยปัญหา เพราะเราก็ไปรักลูกเค้า แล้วความรักก็เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เรย์เป็นคนสองด้านโหดมากเวลาทำงาน  ยิงปืนโดยไม่ต้องกระพริบตา  เป็นตัวละครเก็บกดเพราะว่าโดนกด  โดนพ่อที่เลี้ยงกดไว้ตลอด  แล้วพอมาเจอกับพ่อจริงๆ  จะเป็นอะไรที่พีคมาก  ดราม่ามาก  ไข่มุกมังกรไฟผมมีบทหนักหมดทุกพาร์ท  ทั้งแอ็กชั่น ดราม่า  โรแมนติก  เลิฟซีน   เป็นผู้ชายครบเครื่อง  มีความป่าเถื่อน  มีความอบอุ่น  มีความเซ็กซี่ในตอนเลิฟซีน (หัวเราะ) เป็นบทที่หลากหลายมาก  ทำให้เราต้องทำการบ้านเยอะครับ  เราต้องสร้างเรย์ขึ้นมาจากความขมขื่นในชีวิตเค้า  จนบางทีมันมันซึมนะ  อย่างวันไหนที่เล่นแล้วอารมณ์ไปเยอะๆ กลับมาบ้านยังนิ่ง  รู้สึกว่านั่งนิ่งๆคิดอะไรไปเรื่อยอยู่คนเดียว เรื่องคิวบู๊ อาตู่ให้ซ้อมก่อนเปิดกล้องประมาณสามเดือนครับ  แล้วระหว่างถ่ายก็ต้องมีซ้อมอยู่เรื่อยๆด้วย  ต้องทำการบ้านดีๆ ต้องอ่านบทเยอะๆหลายๆรอบ  ตอนแอ็กชั่นคิวแรก ตื่นเต้นมาก ต้องเล่นกับพี่เดี่ยว ตรงกลางสี่แยกดอยแม่สลอง  ดริฟท์รถแล้วลงมาซัดกัน  พอนับ 5 4 3 2 ใจมันตึกๆๆ  เราก็ซ้อมคิวแอ็กชั่นมาเยอะไง  แต่พอเริ่มเอาจริง ทำไมตื่นเต้นขนาดนี้ (หัวเราะ) อาจจะด้วยคนเยอะ เพราะเราซัดกันกลางสี่แยก ตื่นเต้นครับ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี  ต้องแอ็กชั่นกับพี่เดี่ยวตลอดทั้งเรื่อง เจอพี่เดี่ยวที่ไหนก็ซัดกันตรงนั้น จะมีการต่อสู้หลายศาสตร์ ทั้งมือ มวย หมัด เท้า กระบอง มีด ปืน อย่างปืนที่พี่เดียวใช้ยิง ห่างจากหน้าเราไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัดทุกครั้ง  

              ไข่มุกมังกรไฟจะมีช็อตสวยๆเยอะครับ  เพราะเรื่องนี้นักแสดงเล่นกันเองหมด แล้วเป๊ะเพราะซ้อมกันมาตลอด มีฉากบู๊ประทับใจมากๆเป็นวันช็อต  เป็นตัวตนของเรย์คือยิงสนั่นเลยครับ ยิงแล้วก็มีเปลี่ยนแม็กแต่ถ่ายในคัทเดียว วันช็อต ยากและสวยครับ เรื่องผิดคิวแอ็กชั่น ต้องมีอยู่แล้วครับ แต่เราจะไม่เจ็บมากเพราะว่าถ้าเราผิดปุ๊บหรือว่าคนที่เล่นกับเราผิด  เราจะไม่ฝืน ผิดปุ๊บ  ถอยเลย ยกมือสองมือ  พอ ไม่ต่อ  มีแบบหัวร้างข้างแตกครับตอนซ้อม (หัวเราะ) เล่นกับอาโป  คืออันนี้ไม่ได้ผิดคิวตอนคิวบู๊อะไร เล่นกันเองแล้วเหล็กมาฟาดหัวเรา  โห นึกว่ามีปานอยู่บนหัว แดงแป๊ดเลย (หัวเราะ) อาโปคิวบู๊เค้าเก่ง สมรรถนะร่างกายอาโปเจ๋งมาก เคยเล่นกับอาโปมาแล้ว  เรื่องนี้ต้องมาอยู่ด้านตรงข้าม ต้องสู้กันอย่างดุดัน  ส่วนวาววา เป็นครั้งที่สองที่ร่วมงานกัน  ครั้งแรกคือถ่ายเอ็มวี  ตอนนั้นผมยังไม่ได้เล่นละคร พอรับงานแสดง งานแรกคือเอ็มวี   เอ็มวีแรกในชีวิตก็คือเล่นกับวาววานี่แหละครับ พอมาเล่นไข่มุกมังกรไฟ  ช่วงแรกๆนี่คือความรักของพี่น้องมันจะชัดเจนมาก ดูอบอุ่น ดูนุ่ม เค้าก็ส่งมาดี พอสักพักเรื่องมีความดราม่า เราชัดเจนขึ้น  เริ่มห้ามใจไม่ไหว การทำงานลื่นไหลดีครับ

             เข้าฉากกับพี่เดี่ยว ดีมากๆ พี่เดี่ยวอยู่กับคาแรกเตอร์มากๆครับ  เวลาอยู่ในฉากพี่เดี่ยวจะไม่หลุด มีความเป็นตัวละครสูงมาก สุดยอดเลยครับ ไอดอลผมเลย นอกจากบอดี้สมบูรณ์แบบแล้ว ยังสุดยอดด้านการแสดง ในเรื่องต้องปะทะพี่อู๋ด้วย ตอนเข้าซีนครั้งแรก  ห้องเย็นๆนี่ข้างในผมเหนียวทั้งตัวเลยครับ (หัวเราะ) เหงื่อท่วมเลย  พี่อู๋ส่งมาด้วย เพราะหมิงเต๋อเป็นตัวละครที่ใช้อิทธิพลกับเรามาก  คือถ้ามีสวิตซ์ไปเป็นตัวเพื่อนเอง เราจะหยองทันที  ไม่กล้าเถียง (หัวเราะ) ส่วนพี่อั๋น คิวแรกที่ถ่ายคือคิวแรกของเพื่อน ซีนแรกก็คือถ่ายกับพี่อั๋นเลย  ตอนแรกๆก็เกร็งครับ แล้วพอได้นั่งคุยกับพี่เค้า พี่เค้ากันเองมาก จนทุกวันนี้ก็ พี่เค้าก็เริ่มกลัวน้องๆแทน (หัวเราะ) กลัวโดนน้องแกล้งครับ ทั้งผมทั้งวาววานี่ป่วนพี่อั๋นเละเทะไปหมดเลย

            ฉากยาก เลิฟซีนครับ (หัวเราะ) เล่นกับน้องใหม่ ลิตา คาลิยา แล้วเป็นเลิฟซีนที่ไม่ธรรมดาด้วย  ไม่ใช่มากอดมาหอมแก้ม อันนี้มันเร่าร้อน  ด้วยบทที่โตแล้วก็มีทั้งอารมณ์รุนแรง มันดูดิบแบบว่าคนดีๆเค้าทำกันมั้ยเนี่ย (หัวเราะ) เขินครับ แต่พอหลังๆเราคุ้นกับน้อง  เข้าฉากกันบ่อยขึ้น มีเลิฟซีนกันเยอะ หลังๆก็สมู้ทขึ้น ง่ายขึ้น  

          ฉากประทับใจคือฉากบนตึกร้างสามคน  เราจะดูดิบเพราะทำเพื่อคนที่เรารัก เป็นฉากที่เปิดเผยว่า แดนไทเป็นใครให้เจนเนตรรู้  ต้องทั้งแอ็กชั่น ทั้งดราม่า  มีหลากหลายอารมณ์มาก อย่างฉากวันแรกที่เล่นกับพี่อั๋นก็ประทับใจ ไดอะล็อกยาวแล้วดราม่าด้วย  แต่พอเข้าฉากปุ๊บพี่อั๋นเค้าส่งมา เรารู้สึกว่านี่แหละพ่อเราจริงๆ ส่งมาแบบประทับใจ จำได้เลยฉากนี้ ความรู้สึกเป็นไง

        อย่างรุ่นเราเล่นด้วยกันเองมันก็สนุกครับ  แต่พอเข้ากับรุ่นใหญ่เนี่ย ฟีลจะมาอีกฟีลนึงเลยต้องปะทะกัน  ผมเข้ากับทุกคนเลยครับ รุ่นใหญ่ผมปะทะตลอด  สนุกมาก  สาดอารมณ์ สาดวาจาใส่กัน คำพูดที่ทิ่มแทงสังหารได้  คำพูดของแต่ละคนนี่ยิ่งกว่ากระสุนนะครับ  เรย์จะมีศัตรูรอบตัวไปหมดมีทั้งตำรวจ ทั้งคนในบ้าน ทั้งคู่แข่ง ทั้งพ่อตัวเอง 

          ก่อนหน้าจะเล่นเรื่องนี้เพื่อนได้เจอกับอาตู่แล้วคือ ละครเรื่องแรกที่เป่าจินจง เรื่องที่หนี้มีรัก  อาตู่ไม่ได้กำกับเอง แต่จะมากองคอยดูทุกอย่าง  พอไข่มุกมังกรไฟ  เวิร์คช็อปครั้งแรกก็เจอกับอาตู่ อาตู่ก็จะสอน จำได้ขึ้นใจเลยคือเรื่องของการใช้ภาษา การใช้คำพูดให้ชัดเจน   เพราะเราเป็นสื่อ คนดูเราทั้งประเทศ  เราใช้ภาษาไทยต้องชัดเจน  พอมาเจอเรื่องนี้เรย์ก็ต้องพูดชัด  เวลาคำกล้ำ หรือคำไหนที่ไม่ชัด  อาตู่ให้พูดใหม่เลย อาตู่จะเน้นในเรื่องด้านภาษามาก   คนจะมองว่าอาตู่ดุแต่จริงๆอาตู่ใจดีมากๆชอบเอาขนมมาฝากเพื่อนด้วย (หัวเราะ) ชอบช็อกโกแลตเหมือนกัน จริงๆผมไม่ได้อ้วนนะ  แม่ครัวก็ตามใจนิดนึง คอยมีอาหารพิเศษ พอนานๆ ออกข้างเลย  เข้ากล้องปุ๊บ อาตู่สั่ง ลดความอ้วนเดี๋ยวนี้ !!!  (หัวเราะชอบใจ)  เราก็ลดด้วยการออกกำลังกายทั้งวัน

        ตัวละครเรย์จะบอกกับคนดูว่า การค้ายามันเลวมาก ถ้าดูทั้งเรื่องจะรู้เลยว่า คนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  ชีวิตจะไม่มีความสุขที่แท้จริงเลย  สำหรับเรย์เค้ามีสิ่งดีๆในตัว คือความรักที่มั่นคง แน่วแน่กับเจนเนตร  เรย์ทำทุกอย่างเพราะอยากมีผู้หญิงคนนี้ตลอดไป  บทท้าทายมาก ถูกกดดันจากทุกทาง  มีปมที่ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับชีวิตทุกคน  ทั้งตำรวจ ทั้งพวกเดียวกันเอง ปะทะกับนางเอกด้วยมันทำให้เห็นว่า ยาบ้าไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย  มันคือชีวิตที่ไม่มีความสุข      

             วาววา ณิชารีย์   โชคประจักษ์ชัด  เป็น  เจนเนตร

            เจนเนตรคือตัวละครที่โตมาเป็นแบบผู้หญิงที่มีพร้อมทุกอย่าง  ไม่ต้องขวนขวายหาอะไร  เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นคุณหนูแบบไม่เหวี่ยงวีน  รู้จักพูด รู้จักคิด อยากขยายธุรกิจไร่ชาที่บ้าน มุ่งมั่นช่างฝัน ฝันเยอะ เพราะความเป็นจริงเค้าไม่ลำบาก จนชีวิตพลิกผัน  วาไม่เคยเล่นตัวละครที่มีชีวิตขนาดนี้  ยิ่งพอรู้ความจริงแต่ละเรื่อง เจนเนตรเลยช็อค เพราะภาพในความฝันคือชีวิตมันสวยงามมาก เจนเนตรภูมิใจที่ทุกคนรู้ว่าเค้าทำงาน แต่ถ้ารู้ว่าครอบครัวค้ายาเสพติด  ทุกคนจะมองเค้าเปลี่ยนไป ความฝันวัยเด็กทุกอย่างก็จะเลือนหายไปหมด  เหมือนลิ้นชักที่ไม่สามารถเปิดออกมาได้แล้ว  ชีวิตตัดไปอีกแบบนึงเลยแต่ก็ยังมีจุดมุ่งหมายในชีวิตอยู่  เจนเนตรถึงยอมแลกทุกอย่าง เพื่อที่จะทำให้เป้าหมายตรงนี้สำเร็จเพราะรู้ว่ายาเสพติดมันไม่ดี  สิ่งที่จะทำได้คืออะไรบ้าง  แม้กระทั่งยอมแลกความรักมิตรภาพ  เจนเนตรเป็นตัวละครที่มีมิติมากจากครอบครัว จากเพื่อน จากความสัมพันธ์ตัวละครทุกตัว เรื่องนี้พี่เรย์  พี่ชายเป็นตัวแปรที่เปลี่ยนชีวิตเรา พี่เรย์คือพี่เพื่อนเล่น  เล่นดีมากด้วยค่ะเรารู้สึกว่าเค้าเป็นพี่เรย์ตลอด เราไม่รู้สึกว่าเป็นพี่เพื่อน เรารู้สึกเชื่อในตัวละครมากๆ  พี่เรย์เป็นจิ๊กซอว์ ที่มาต่อทำให้เจนเนตรมีชีวิตเข้มข้นมาก  แดนไทก็เป็นตัวละครนึงที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ อาโปก็เป็นแดนไทที่ดี อย่างพี่เรย์ เค้าโตมากับเรา แต่แดนไทเพิ่งเข้ามาในชีวิตเรา เราไม่รู้จักเค้ามากมาย คนนี้แปลกๆดี  แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาร่วมกัน  ทำให้มีความรู้สึกเรารักแดนไทเพราะว่าช่วงนั้นเจนเนตรอ่อนแอมาก  จะรู้สึกว่าใครก็ได้ช่วยทำให้ชั้นหายใจ ชั้นไม่มีแรงที่จะหายใจแล้ว ในเวลาที่อ่อนแอที่สุด เราเจ็บแล้วมีคนอยู่ข้างๆดูแล   ทำให้รู้สึกว่าถ้ามีแดนไทคือดีมากๆ แต่พอเกิดเรื่อง  หน้าที่ขัดแย้งกัน  เรารู้ว่าต่างคนต่างอยากทำเป้าหมายของตัวเองให้ดีที่สุด  เส้นทางมันขนานกัน  แต่เจนเนตรต้องอยู่ให้ได้ เจนเนตรถึงเป็นผู้หญิงที่สตรองมาก  เริ่มจากเด็กสาวช่างฝัน ไปสู่นายใหญ่

             เรื่องนี้บู๊ไม่เยอะ (หัวเราะ) แต่โดนกระทำทั้งจิตใจ ร่างกาย ทั้งงู  ทั้งไฟ  น้ำแข็ง ถ่วงน้ำ โอ้โห สารพัดเลย (หัวเราะ)  แต่มันก็ทำให้ตัวละครแข็งแรงขึ้น เพราะไปเจอเหตุการณ์อะไรที่ต้องเอาตัวรอด แล้วร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น ได้ร่วมงานกับนักแสดงสองรุ่น คือรุ่นเดียวกันกับรุ่นที่โตขึ้นมาอีกนิด คือ พี่อู๋ พี่อั๋น พี่อั๋นนอกฉากจะสนิทกัน จะชอบแกล้งเค้า  แต่ในฉากพี่อั๋นจะเป็นอีกคนนึงเลย  เค้าเป็นจางเกาซินเลย พอ 5 4 3 2 ปุ๊บ  เรารู้สึกว่าไม่ใช่พี่อั๋นแล้ว นี่คือจางเกาซินที่จะฆ่าชั้น  ส่วนพี่อู๋ก็ชอบมีมุกประหลาดๆ (หัวเราะ) มุกแบบจังหวะแบบงงๆ  แต่ทุกคนก็ต้องช่วยกันหัวเราะ ต้องเข้าฉากด้วยกันบ่อย แล้วก็จะมีบทที่ยาก เพราะว่าหมิงเต๋อพยายามบังคับเรา  เราก็ต้องพยายามเหนือชั้นเข้าไปใหญ่ ข้างนอกเค้าทะเล้นๆตลกๆ แต่เวลาเข้าฉากพี่อู๋จะเป็นเจ็กหมิงเต๋อ  ส่วนพี่เดี่ยวเค้าส่งแรง เค้าเป็นคนที่พลังเยอะมาก เค้าเป็นอาหลางตั้งแต่ซ้อม  ตอนซ้อมเล่นมาร้อยห้าสิบแล้ว  มันดีมากเพราะเวลาเล่นจริง  มันได้เกินร้อยห้าสิบ

          บทเจนเนตรเป็นตัวละครที่มีความเปลี่ยนแปลงสูงมาก จากใสเป็นเทา วาชอบที่จะได้เป็นตัวละครนำ มีความสำคัญกับเรื่อง บทที่วาได้รับถ้ามันเป็นบทที่มีมิติอย่างงี้  มันก็เพอร์เฟ็คแล้ว เรารักอาชีพนักแสดง รักตัวละครตัวนี้ เราเชื่อว่าคนดูไม่ได้อยากดูแบบนางเอกต้องเป็นคนดีอย่างเดียว วาว่าเค้าอยากดูเรื่องราวที่มันถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวจริงๆ 

            มีฉากโรแมนติกเยอะ  เป็นนางเอกที่มีผู้ชายมาเอาใจสองคน คนละคาแรกเตอร์  มีช่วงที่รักคนนี้แต่ไปแต่งงานกับอีกคน (หัวเราะ)  เจนเนตรต้องมีเหตุผลที่จะเลือกใครสักคน เราต้องรู้ว่าผู้ชายคนไหนรักเราจริง ทุ่มเทให้เราอย่างจริงใจ  เราเชื่อใจใครได้มากที่สุด   

          ร่วมงานกับอาตู่  อาตู่น่ารักค่ะ อาตู่จะมีมุมดุเป็นคาแรกเตอร์แต่จริงๆอาตู่ชอบแซว  ทำงานกับอาตู่ วาแฮปปี้มากในการเป็นนักแสดง เพราะว่าอาตู่แทบไม่บรีฟอะไรวาเลย หมายถึงว่าอาตู่ให้เกียรติวามากในการที่จะให้วาเล่นยังไงก็ได้กับตัวละครที่มีความสำคัญ  ตัวละครที่ยากขนาดนี้ อาตู่จะบอกเลเวล  วารู้สึกดีมากที่อาตู่เชื่อว่าเราสามารถทำได้  คือถ้าคุณรู้สึกคุณก็ทำ มันจะมาจากข้างใน  การเป็นนักแสดงมันก็เหมือนการได้แบบดีไซน์ตัวละคร ได้เข้าใจ แต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน  แต่ละวันที่ไปกอง วามีความสุข ทุกที่โลเคชั่นสวย เหมือนได้ไปเที่ยวตลอด อยู่กับคนที่น่ารัก  (หัวเราะ) คือตื่นมาฉันพร้อมจะยิ้มอีกแล้ว โลเคชั่นดี  ไม่ได้รู้สึกลำบากเลย แล้วก็ทีมงานน่ารัก เฮฮามาก

          เรื่องนี้พูดถึงเรื่องยาเสพติดด้วย ยาเสพติดมันเป็นสิ่งที่ร้ายแรงที่สุด เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่ดีก็ไม่ควรลอง ไม่ควรทำ  อย่างตัววาเป็นคนที่มีความฝัน  วามองว่าทุกคนที่เกิดมาแล้ว ควรจะคิดว่าทุกคนมีคุณค่าที่จะมีชีวิตอยู่ มีความหมายที่จะมีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นเอาเวลาไปหาสิ่งที่ฝัน หาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขดีกว่า  การเสพยา ขายยา มันเท่ากับเราแชร์สิ่งไม่ดีไปให้สังคม  สุดท้ายมันก็จะวนมาในครอบครัวตัวเอง  อะไรที่เรารู้ว่ามันไม่ดีก็อย่าไปทำ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นๆที่ดีต่ออนาคตตัวเอง ต่อครอบครัว  ต่อตัวเอง  ทำเรื่องที่ดีให้ตัวเองมันก็เท่ากับทำให้สังคมดีด้วย   มันจะเป็นคลื่นที่กระจายความดีออกไปทั้งประเทศ ทั้งโลก ไข่มุกมังกรไฟเป็นละครที่มีมิติมากๆ  มันมีความหมายในทุกๆซีน  วาว่าดูแล้วคุ้มค่าแก่เวลาที่เสียไป

          อาโป ณัฐวิญญ์  วัฒนกิติพัฒน์  รับบทเป็น  แดนไท

         ผมรับบทเป็นแดนไทครับ แดนไทเป็นตัวละครที่มีแบ็คกราวน์ชีวิตที่ดาร์กมากๆ  เป็นตำรวจที่น้องสาวฆ่าตัวตายเพราะยาเสพติด   ทำให้เป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่อุทิศตัวเองเพื่อทำลายขบวนการผู้ค้ารายใหญ่ให้ได้ ก็จะมีเพื่อนร่วมทีมเป็น พี่แจ็ค พี่โบว์ แล้วก็พี่บอย ภาสกร เป็นเพื่อนร่วมงานที่ขัดกันตลอด  ภายใต้การดูแลของอาเชาว์  ที่เป็นผู้การครับ อีกฝ่ายก็คือฝ่ายของเรย์กับเจนเนตรที่เราต้องเข้าไปสืบ แล้วก็อาหลางคือพี่เดี่ยว  สุริยนต์ เรียกว่าเรื่องนี้มีตัวละครแวดล้อมเยอะมาก  แดนไทเป็นตำรวจสายสืบที่ต้องเป็นปลอมตัวศิลปิน ตลก กะล่อน มันเป็นขั้วตรงข้ามกัน 

         บทแดนไทยากมากตรงความรู้สึก  มันลึกแล้วก็ดาร์ก มีความเป็นคนสูงมาก ฉะนั้นทุกอย่างมันต้องกลม อ่านบทก็อ่านสักสองสามรอบ ก็ยังไม่เก็ท ด้วยความที่มันเป็นตัวหนังสือ เราก็ต้องไปหาข้อมูลว่าอาชีพตำรวจเค้าเป็นยังไง ศึกษาจากคนที่เป็นตำรวจ ไปนั่งคุยเรื่องการทำงาน  ฃคุยเรื่องประสบการณ์ว่ากว่าเค้าจะมาเป็นตำรวจทุกวันนี้ เค้าต้องฝึกผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งมันก็ตรงกับบทที่หาข้อมูลมาแล้วว่าตำรวจที่ทำงานสืบ ทำงานทางลับ ต้องเสี่ยงมากแค่ไหน  ถ้าเราเกิดถูกจับได้  เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เรารอดจากการถูกยิง ให้เค้าเชื่อใจเรา  ซื้อใจเค้าให้ได้ ณ ตอนนั้น  แล้วตัวแดนไทก็ทำอย่างนั้นกับเรื่องนี้   ซึ่งคนดูก็จะได้เห็นในความบ้าๆบอๆ   แดนไทจะมีความเป็นคน  มีความจริงจังทุ่มเท  ทำให้เรารู้ว่าตำรวจเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าเคารพเพราะว่าตำรวจทำทุกอย่างเพื่อประชาชนจริงๆเราไม่เคยรู้เลยว่าเค้าถูกฝึกหนักมาขนาดนี้  เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวของเราที่จะมารับบทนี้ก็ต้องหนักมากเหมือนกันครับ

          เราทำละคร ไข่มุกมังกรไฟ ขึ้นมาเพื่อให้เห็นภาพจุดๆหนึ่งที่เป็นปัญหาในสังคมชัดขึ้นแล้วก็เป็นสิ่งเตือนใจทุกๆคนว่า ว่าอะไรคือสิ่งดี อะไรคือสิ่งไม่ดี อยากให้เห็นความสำคัญของตำรวจตัวผมเองมารับบทเป็นแดนไทคือได้เห็นความเหนื่อยของตำรวจ ได้ไปฝึกกับ ทีมสยบไพรี ซึ่งเป็นทีมจับกุมยาเสพติดรายใหญ่รายสำคัญจริงๆ  

        แดนไทเป็นบทที่โตมีสีสัน มีทั้งเลิฟซีน  มีทั้งดราม่า มีทั้งคอเมดี้ มีทั้งแอ็กชั่น   เป็นละครเรื่องแรกที่ผมเล่นโรแมนติกเยอะขนาดนี้ครับ  เป็นการจูบในละครครั้งแรกของผม ก็อยากให้ติดตามว่าจะละมุนแค่ไหน (หัวเราะ) มีคิสซีน แล้วก็เลิฟซีนแบบต่างๆ  เป็นผู้ชายที่มีความรักกับผู้หญิงที่ไม่ควรรัก เราเคยคิดว่าตำรวจคงไม่ใจอ่อน คงแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว แต่พอไปคุยจริงๆ ตำรวจก็เป็นคน ทุกอย่างมันไหลไปตามความรู้สึกได้ มันก็เลยกลับมาที่ตัวละครแดนไทว่าหลงรักเจนเนตรได้  เพราะแดนไทมีรัก โลภ โกรธ หลง  ซึ่งเรื่องนี้จะมีความเป็นคนสูง  รักมากก็โกรธมาก มีความเห็นแก่ตัว อยากให้เค้าเป็นของเรา  อยากให้เค้าออกจากการค้ายา ดราม่าซีนก็สุดเหมือนกัน  เป็นความเศร้าที่ผสมความโกรธ  โกรธจนน้ำตาไหล ซึ่งตัวผมไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกที่โกรธใครแล้วถึงกับตะโกนออกมา ไม่เคยรู้สึกขนาดนี้มาก่อน   เหมือนเปิดอีกโลกของผมว่าผมก็สามารถทำมุมนี้ได้ขนาดนี้เลยเหรอ  ส่วนคอเมดี้เล่นค่อนข้างยาก  มันเป็นการรับส่งกันหมดเลย  คือเราไม่สามารถตีปิงปองแล้วให้ลูกปิงปองกลับมาได้ ถ้าไม่มีใครตีกลับมา มันไม่สามารถทำได้ ซึ่งทุกคนก็รับส่งกันได้ดี   มันก็เลยทำให้มีความสนุกครับ

        แอ็กชั่น  เรื่องนี้บู๊เต็มที่ เล่นเรื่องนี้ได้กำไรชีวิตจริงๆ  คือได้สัมผัสหมดทุกด้านของคน เราได้หัวเราะ ได้รัก  ได้โกรธ  ได้เศร้า ได้เกลียดคนคนนึงมาก  ซึ่งมันก็เป็นความน่าสนใจของละครเรื่องนี้ ผมเป็นคนไม่ค่อยโกรธใคร  เลยไม่เคยสัมผัสความรู้สึกต้องโกรธ  แต่เราต้องมีประสบการณ์ในการแสดง  ผมก็ต้องเรียนรู้จากอาตู่ อาตู่จะสอนในเรื่องของความเข้าใจสิ่งต่างๆ พอมันกลายเป็นความคิด มันลงไปในเป็นความรู้สึก อาตู่พาเราไปถึงจุดนั้น  แล้วเราเลยรู้สึก เพราะว่าผมก็ยังเด็กมากที่จะจินตนาการอะไรต่างๆจากประสบการณ์ของผม  ขอบคุณอาตู่ครับที่ทำให้ผมรู้สึกกับสิ่งต่างๆจนแสดงได้ออกมาจริงๆ ต้องขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆนักแสดงเรื่องนี้ด้วย  อย่างในฉากเราต้องโกรธก่อนเข้าฉาก เรามีความโกรธกำมือนึง  พอเข้าฉากกับเดี่ยว พี่เพื่อน  กับวาววา หรือตัวละครแวดล้อมอื่นๆ ความโกรธมันมากขึ้นเป็นสองกำมือ  มันเป็นการรับส่งขึ้นมา ณ โมเม้นต์นั้นคือ คือความรู้สึกมันมาอย่างนั้นเอง  เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน 

       ฉากยากคือฉากที่เรย์ เจนเนตร แดนไท  สามคนรู้ความจริงว่าต่างคนต่างทำอาชีพอะไร  เป็นใครกันแน่  ผมไม่เคยโดนยิง ผมไม่เคยถูกแขวน ไม่เคยถูกทรมานนานขนาดนั้น  แล้วก็เสียคนรักไปอีก ทรมานทั้งกายและใจไปพร้อมๆกัน เป็นแอ็กชั่นและดราม่าในซีนเดียวกัน  มันยาก แต่ทุกคนก็พากันไปได้ ผมประทับใจทุกฉากครับ เพราะไม่เคยเล่นเรื่องไหนที่ยากขนาดนี้มาก่อน แล้วไม่เคยเล่นเรื่องไหนที่ได้ท้าทายศักยภาพตัวเองได้มากขนาดนี้  ทั้งด้านความรู้สึก ทั้งด้านกายภาพเลย  เราไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้ขนาดนี้ ถึงจะเหนื่อยขนาดไหน  แต่เราเห็นคนอื่นเหนื่อยกว่า  เราเห็นผู้กำกับเหนื่อย เราเห็นนักแสดงคนอื่นเหนื่อย เราก็รู้สึกว่าเราทำได้ต่อ  เราไม่เคยรู้สึกว่าขีดจำกัดในร่างกายมันจะได้ขนาดนี้  ก็มีฉากใหญ่ ฉากสำคัญ ถ่ายไป 24 ชั่วโมง ทำงานกันไม่หยุด  มันคือการที่ผมแบกชุดคอมมานโดอยู่บนตัวผมยี่สิบกิโล ผมโฮลไว้ทั้งวันตั้งแต่ตีห้าจนถึงตีห้าอีกวัน  1วันเต็มๆ  ผมเห็นสิ่งทุกคนทำ  เห็นขีดความสามารถที่ทุกคนมี เห็นกำลังใจ เห็นแรงกายแรงใจที่ทุกคนตั้งใจทำงานนี้ รู้สึกเลยว่ามันเป็นสิ่งที่น่าจดจำ เพราะไม่รู้ว่าจะมีงานไหนที่ได้ทำท้าทายความสามารถตัวเองขนาดนี้

        วาววาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้  สามารถพาเราไปถึงจุดที่ผู้กำกับอยากได้ อย่างบางฉากที่เรารู้สึกไม่มั่นใจ แต่พอมีวาววาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ว่าเราจะพาไปได้ถึงเป้าหมายของซีนได้  ส่วนพี่เพื่อน  เรื่องนี้ต่างคนก็ต่างพัฒนาครับ พี่เพื่อนมีชั่วโมงบินมากกว่ามีอะไรเราก็จะคอยสังเกตเค้า คอยเก็บประสบการณ์จากเค้า เข้าฉากกับพี่เดี่ยวน่าสนใจมาก เพราะว่าผมไม่เคยเล่นเรื่องไหนที่เข้มข้นขนาดนี้มาก่อน  เวลาอ่านบทมันก็อย่างนึง แต่การที่ได้ไปสัมผัสตัวละครนี้มันก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง  ขับเคลื่อนไปได้ถึงจุดที่เป็นความน่าสนใจของนักแสดงอีกอย่างหนึ่ง

       ทุกคนในกองก็แกล้งผมหมดแหละ  (หัวเราะ)  ผมดูน่าแกล้งมั้ง   ผมดูไม่สู้คนมั้ง (หัวเราะ)  ผมก็ยอมๆเค้าหมดครับ  ไม่รู้ว่าจะแกล้งอะไรกลับ  สมองส่วนนั้นผมทำงานไม่ทันจริงๆ แบบกับเค้าแกล้งมาแล้วเราก็ต้องหาวิธีแกล้งกลับ  คิดไม่ทันจริงๆ  ก็เออๆ ได้ๆ โอเคๆ ยอมๆ ยอมไป ทุกคนก็น่ารักครับในกอง ผมจะเป็นผู้นำในการเล่นเกมส์ครับ ผมเอาเกมส์มาเล่นในกอง แล้วทุกคนก็ติดกันงอมแงม (หัวเราะ) เจอนักแสดงรุ่นพี่   พี่อั๋น  พี่อู๋ เราก็คอยสังเกตเค้าครับ พี่ๆเค้ามีประสบการณ์เยอะกว่า   

       ก็อยากฝากถึงวัยรุ่นด้วยกันว่า ในวัยเราคือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ก็อยากให้ใช้ความนึกคิดให้มากขึ้น เวลาที่เราจะทำอะไรลงไป  เราอยากลอง เราอยากได้ความสนุก เราอยากได้อะไร  ขอให้คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาให้มากยิ่งขึ้น และอยากให้คิดนึกถึงหน้าคนที่เรารักมากยิ่งขึ้น  รับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำ  ถึงแม้ว่าคุณอยากลองยาเสพติด  แต่มันก็เป็นความสนุกแค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง  ผลที่ตามมา คือมันเสียทั้งสุขภาพ เสียเงิน  เสียความรู้สึก เสียคนรัก เสียครอบครัว ธรรมะช่วยแก้ปัญหายาเสพติดได้ด้วยนะครับ เพราะพอเรามีสติ  เราก็จะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่  รู้ว่าอะไรถูกอะไรควร เวลาเราทำอะไร  เราก็รู้  รู้ตัวก่อน เราไม่ได้เอาความสนุกมาเป็นสิ่งนำหน้า    

       ทุ่มเทกันขนาดนี้บอกเลยว่าสามพระนางขอกำลังใจรัวๆให้นักแสดงทุกคนด้วย  “ไข่มุกมังกรไฟ”  นำแสดงโดย คณิน ชอบประดิถ  ณิชารีย์  โชคประจักษ์ชัด  ณัฐวิญญ์  วัฒนกิติพัฒน์  วิทยา วสุไกรไพศาล  ธนากร  โปษยานนท์  สุริยนต์  อรุณวัฒนกูล  ภาสกร บุญวรเมธี   เบญจวรรณ  อาร์ดเนอร์  คาลิยา  นิฮุต   พลวัฒน์  มนูประเสริฐ  การัญชิดา คุ้มสุวรรณ  จักรพันธ์ จันโอ   สุเชาว์  พงษ์วิไล   ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์  สุพจน์ จันทร์เจริญ  ปรารถนา  สัชฌุกร  ภัทราพร   ปิ่นทอง  ปวิน  ชินวงษ์   วัทนพร  พึ่งเพียร  และ  กมลสรวง  อักษรานุเคราะห์ บทประพันธ์ของ  นายพันดี    บทโทรทัศน์  พัญสร   กำกับการแสดงโดย  นพพล  โกมารชุน   ออกอากาศวันแรก ศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 เวลา 20.00 น.   เสาร์ - อาทิตย์  20.15 น. ทางช่อง  33 HD