เด่นคุณ - อาย กมลเนตร รับบทหินในเพลิงฉิมพลี

                หนูชอบซีนที่เราเป็นอรองค์แล้วเจอแขไข รู้แล้วว่าพี่สาวเรา แขไขยังไม่ตาย แต่ถูกขังอยู่ในกระท่อม ซีนนั้นเป็นซีนที่หนูว่าคนดูต้องรู้สึกเพราะว่าหนูรู้สึกมาก เจอพี่ที่เราตามหามาตั้งนาน คือมันเริ่มตั้งแต่ความผูกพันตั้งแต่เด็ก เรารักมาก จนเขาไล่เรา เขาตบหน้าเราเหตุการณ์มันถูกดำเนินมาเรื่อยๆจนวันนึงเขาหายไป 5 ปี เราไม่ได้เจอเขาเลย เป็นตายร้ายดียังไงไม่รู้  ตกลงอยู่หรือตาย  แต่วันนี้มาอยู่ตรงหน้าแต่มาอยู่ในสภาพแบบ ไม่ใช่พี่แขของเรา พี่แขของเราคือคนสวยมาก พี่แขดูดีที่สุด แต่วันนี้พี่แขเป็นอีกสภาพหนึ่งเลย แต่เราก็รักมาก แว่บแรกคือความดีใจที่พี่แขยังไม่ตาย แล้วก็สงสารเค้ามาก   อารมณ์หลายๆอย่างรวมกันอยู่ในฉากนี้

                หนูว่าตัวละครทุกตัวสอนเรื่องการทำดีค่ะ  แล้วก็เสนอในมุมของความรัก ตัวละครแขไขหนูว่าสอนในเรื่องของความรักได้ดีมากถ้าเกิดเรารักคนแล้วเรารักไม่เป็น มันจะทำลายทุกอย่างจริงๆส่วนตัวละครดาวเด่นที่รักพี่สาว  เป็นความรักที่บริสุทธิ์มาก รักคนในครอบครัวแล้วก็ไม่ได้เรียกว่ายอมทำทุกอย่างเพื่อพี่ เพราะรู้ว่าพี่ไม่ดีแล้วก็ไม่อยากทำ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ว่าเรา ทำไมไม่เข้าข้างเค้า ดาวเด่นจริงๆ แล้วเป็นคนดีนะ เพียงแต่ว่าตอนแรกๆ จะเล่นกวนๆ หน่อย  พูดจาขวานผ่าซาก คอยกระตุกพี่แต่พี่ไม่ฟังหรอก รักพระเอกแล้ว ใครก็ไม่ต้องมายุ่ง ยิ่งมีแม่ให้ท้ายด้วย  

                อยากให้ทุกคนติดตามละครเรื่องนี้ค่ะ เพราะว่าเราเหนื่อยกันทุกคน ทั้งทีมงาน ทั้งนักแสดง อยากให้ดู   วิวสวยเยอะมาก ” นอกจากบทเด่นของอายแล้ว ยังมีนักแสดงน้องใหม่อีกคนที่มารับบทยากต้องคอยปะทะกับหนานไตร และดาวเด่นตลอดทั้งเรื่อง เด่นคุณงามเนตร รับบทแสงคำ ควาญช้างคนซื่อ รักเดียวใจเดียว

               “ เด่นคุณ งามเนตร อายุ 20 ครับ  เรียนปี 2 มหาวิทยาลัยรังสิต สาขาภาพยนตร์คณะนิเทศศาสตร์ เล่นเป็น แสงคำ ครับ เป็นหนุ่มควาญช้างที่ทำทุกอย่างเพื่อความรัก มั่นคงรักคนเดียวแค่เนื้อนาง คนที่ยอมทำทุกอย่างจริงๆ  ถ้าใครเข้าใกล้เนื้อนาง เราก็จะไม่ชอบเค้า ไม่ว่าเป็นใคร จนถึงวันนึงเห็นเค้าแต่งงาน เราก็ต้องใช้ระยะเวลาทำใจ จนเห็นพระเอกหนานไตรเค้ารักเนื้อนางจริง เราก็มอบเนื้อนางให้เขา แบบใจหนึ่งก็ยังรักอยู่  ยังเป็นห่วงเป็นเหมือนน้องสาว แล้วก็มาเรื่องสืบหาคดีการฆาตกรรม ไปเจอคุณอรองค์ปลอมตัวมา จากเป็นดาวเด่นปลอมตัวเข้ามาเป็นครูอรองค์ ก็เป็นคนหัวแข็งเหมือนกัน ก็จะมีการถกเถียงกันบ้าง ไม่ชอบกันบ้าง สุดท้ายก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน 

                 บทแสงคำยากครับ ผมเป็นเด็กอายุ 20 ที่ยังไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน คือแทบทุกสิ่งทุกอย่างในตัวของแสงคำ ผมต้องเรียนรู้จากตัวละครตัวนี้  ในเรื่องแสงคำเป็นผู้ใหญ่ ทุกคนจะเรียกว่าอ้ายแสงคำ จะไม่มีใครเรียกว่าน้องแสงคำ  อ้ายก็คือจะเป็นพี่  เขาจะเป็นพี่มาตลอดเลย ที่ผมเคยเล่นละครมา  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษา อันนั้นก็จะเข้าถึงง่ายกว่า แต่เรื่องนี้ต้องมีความเป็นตัวของเองสูง  อายุไม่ใช่ 20  แต่เป็นใกล้ 30 กว่าๆ  

                  พี่ๆนักแสดงทุกคนก็สอนครับ พี่อั้มสอนว่า ให้เด่นเน้นไปทางการแสดงนะครับ (หัวเราะ)แล้วก็พี่อาย  จะสอนผมเรื่องการแสดงอะไร ผมก็นั่งฟังเขา เพลินดี พี่เบลล่าก็จะสอนครับ ผมจะเป็นคนที่เดินเข้าไปหาพี่เบลล่าบ่อย บอกว่าพี่  ผมเล่นห่วยมากเลย พี่เบลล่าก็บอกว่า ให้มีสติ อยากให้เด่นมีสติก่อน ต่างคนก็ต่างช่วยเหลือกันครับ  ในกองนี่ถือว่าเราเป็นน้องคนเล็กเลยครับ โดนแกล้งครับแต่จะโดนด่าบ่อยมากกว่า จะโดนประมาณแบบว่า โดนจิก โดนกัดบ่อย เด่นคุณไม่มาคิวนั้นก็จะโดนนินทา พี่อั้มชอบแกล้งฮะ จับเอาขาถ่างแล้วก็ยันๆๆๆๆ  บางทีก็ล็อคคอ  บีบคอบ้าง  พี่อั้มชอบแกล้งทุกคนในกองครับ  (หัวเราะ)

                 ฉากที่ยากที่สุดคือฉากแรกครับ เพราะว่าผมเป็นคนที่ดูท่าทางว่าไม่ขี้กลัว แต่เป็นคนขี้กลัว  แล้ววันนั้นเขาวิ่งผ่านน้ำตก กล้องถ่ายจากด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วก็เป็นฉากแรก เขาจะให้วิ่งไปเรื่อยๆ  ผมไม่รู้ว่าน้ำตก  น้ำมันจะไหลแรงจนตกลงมาตายรึเปล่า แต่อาตู่บอกว่าให้วิ่ง ครั้งแรกวิ่งไป ผมก็มองพื้น อาตู่บอกว่า ในเรื่องเอ็งวิ่งที่นี่มา 10 ปี 20 ปีแล้ว  วิ่งตั้งแต่เกิด มองพื้นทำไม มองให้มันตรงๆ  ผมก็วิ่งไปกลัวไป  ต้องวิ่งเฉียดน้ำตกไป ผมก็ยิ่งกลัว  แต่ในใจคิดว่าเออ...เขาอุตส่าห์เอาเรามาเล่นละครแล้ว ตายก็ช่างมันวะ  ตายเพื่อละคร  ก็เลยคิดว่าฉากนี้ฮะ  คือฉากที่ยากที่สุด

                ฉากแอ็คชั่น ยอมรับว่ายากครับ แล้วก็มีฉากที่ต้องเล่นให้ได้นะ เราจะกดดัน เวลาเล่นเทคแรกได้ เทคที่สอง มันยากขึ้นเรื่อยๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ เทคที่สาม สี่ มันจะกดดันตัวเองขึ้นเรื่อยๆ  ฉากดราม่าผมพูดเลยว่ามันง่ายกว่าฉากจริงใจ  ดราม่ายังไม่ยากเท่าฉากที่จริงใจนะครับ  เล่นให้จริงใจที่สุดด้วยสายตาอย่างนี้ยฉากที่แสงคำไปพูดขอร้องกับทุกคนว่า ออกไปจากปางเถอะ คือชีวิตเราไม่มีใครเลย ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ มีแต่พ่ออุ๊ย หมื่นหล้า เนื้อนาง คำฝาย  ชีวิตเรามีแค่นี้จริงๆ  ขอให้ฟังเราบ้างเถอะ ขอร้องๆ พอไม่มีใครฟังเราก็ต้องเดินออกไปครับ  ฉากนั้นเป็นฉากที่คนเขายังแซวผมอยู่เลย  มันเป็นฉากที่จริงใจที่สุด

                ผมชอบตัวละครแสงคำมากครับ ตัวละครคือตุ๊กตา เอาตุ๊กตามาวางตัวหนึ่ง มันคือที่ๆเราจะไปสิง  ตัวแสงคำเป็นผู้ชายแข็งแกร่ง แต่เมื่อผ่าตัดเข้าไปดูแล้วจะเห็นว่า พิการทางจิตใจมาก อ่อนแอ ขี้น้อยใจ เป็นคนที่มีความยึดมั่นอยู่ใจเดียว ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง เขาก็ยังมีจิตใจยึดมั่นอยู่ใจเดียว คือรักของแสงคำอาจจะไม่ใช่รักที่เสียสละมากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องมองเห็นความจริงว่าให้เนื้อนางไปเจอใครที่มีความสุขดีกว่า  มันเป็นรักที่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รักเรา  เราคบกันแล้วเขาทุกข์ใจ มันไม่ใช่รักที่เสียสละนะ  ถ้าชีวิตเด่นคุณ เด่นคุณไม่เสียใจอยู่แล้ว แต่แสงคำคงเสียใจมากเพราะว่ารักกันมาตั้งแต่เด็ก  เสียใจเพราะเนื้อนางเป็นใครที่ขาดไม่ได้ในโลกใบนี้ แต่ถ้าเป็นเด่นคุณ สาวบอกไม่รักอย่างงี้ก็ไม่เป็นไร เสียใจแต่ไม่เป็นไร  ขอให้บอกกันตรงๆนะ

                อยากฝากให้ทุกคนดูละครเพลิงฉิมพลีครับ  เพราะว่าเป็นละครที่สอนทั้งเรื่องความรักและการต่อสู้อุปสรรค มีเรื่องราวเยอะมากเรื่องราวของวัฒนธรรม ที่สำคัญของเรื่องนี้นะฮะ มีภาพที่สวยมากลงทุนสูง เป็นละครที่เรียกได้ว่ามีคุณค่ามาก คุณค่ามากควรที่จะบริโภคครับ (หัวเราะ) สอนให้คนรู้ว่ารักที่พอดีเป็นยังไง แบบหนานไตร บทที่พี่อั้มเล่นนี่ก็คือขี้หึงเกินไป   ไม่ถามเนื้อนางเลยว่าเป็นยังไง  สังคมปัจจุบันมีข่าวบ่อยๆเรื่องหึงหวง  เอามีดไปแทงแฟน ยิงแฟนตาย ผู้ชายจะมีความหึงหวงได้รุนแรงมาก  ผมว่าความหึงหวงมีผลร้าย ละครเรื่องนี้ก็เลยสอนว่ารักให้พอดี อย่ารุนแรงเกินไป ”

                ฝากกันขนาดนี้ ต้องเตรียมตัวดูเพลิงฉิมพลี ตอนแรก อังคารที่ 30 กันยายนนี้ 20.15 น. ทางช่อง 3 กันนะจ๊ะแฟนๆ