เปิดฉาก ดอกไม้ใต้เมฆ เด่นคุณขอโอกาสขึ้นแท่นพระเอก แยมท้าทายทั้งร้องทั้งเต้น

  • Posted on: 31 December 2015
  • By: admin

               ถือเป็นผลงานล่าสุดของ เป่าจินจงที่สร้างความแตกต่าง ด้วยเรื่องราวสุดขั้วของเจ้าชายพลัดถิ่นและนักร้องดัง ความแตกต่างที่กลายเป็นการฝ่าฟันเพื่อรัก  และการได้พระนาง นักแสดงรุ่นใหม่ เด่นคุณ งามเนตร กับบทพระเอกนำครั้งแรก  ในบท เจ้าชายธาวินดรณและแยม มทิรา ที่รับบทท้าทายเป็นนักร้องดังทั้งร้องทั้งเต้นสะบัด ซึ่งเป็นบทที่แยมสารภาพว่ากลัวมาก  

             ดอกไม้ใต้เมฆ ละครโรแมนติกดราม่า เรื่องราวความแตกต่างสุดขั้วที่มาผสานกันด้วยความรัก เมื่อเจ้าชายธาวินดรณ (เด่นคุณงามเนตร) ต้องหนีการเปลี่ยนแปลงในแคว้นอิสระเวียงพะเนิน มาซ่อนตัวเป็นเพียงคนงานเชิดสิงโตในคณะของนางเอก  ขณะที่เหมย(แยม มทิรา) นักร้องดังก็ต้องเผชิญมรสุมในวงการมายาที่พร้อมจะถูกแฉ ถูกกระชากหน้ากากต่างคนต่างที่มาแต่สองหัวใจแกร่ง ฟันฝ่าอุปสรรคให้สมกับเป็นเหมย ดอกไม้ บานท้าทายลมหนาว และเจ้าชายผู้แบกภาระกลับไปกอบกู้แผ่นดินเกิดที่วัง ใต้เมฆ ความรักบนความแตกต่างจุดชนวนให้ทุกชีวิตพลิกผัน จากสูงสุดสู่ชะตากรรมเกินคาดคิด

              สำหรับ เด่นคุณที่รับบทพระเอกนำละครหลังข่าวเป็นครั้งแรก เป่าจินจงจัดหนักให้ด้วยการส่งไปฝึกขี่ม้า ยิงปืน เชิดสิงโต คิวบู๊ร้องเพลง เล่นพิณ เพื่อเป็นเจ้าชายพลัดถิ่นหนีการไล่ล่า ขณะที่แยม ก็ต้องเจอบทหินเพราะเป็นถึงนักร้องซุป’ตาร์สาว  ทั้งร้องทั้งเต้นเซ็กซี่เล็กๆโดยเฉพาะแยมที่ออกปากเองว่าเป็นบทที่ไม่ถนัดและเกร็งมาก แต่ยิ่งยากยิ่งท้าทาย ทั้งพระนางต่างซุ่มซ้อมเรียนร้องเรียนเต้นจนหนึ่งณรงค์วิทย์ เจ้าพ่อเพลงละครมั่นใจ ส่งให้ทั้งคู่ร้องเพลงประกอบละครเองโดยแยมร้อง 2 เพลงคือ รัวรัว กับ มารักกันให้เข้าใจ ส่วนเด่นคุณร้องเพลง“เอื้อมไม่ถึง” เพลงไตเติ้ลละครด้วย

             ฉากเด่นเปิดเรื่องคือฉากพบกันครั้งแรกในหัวสิงโตของเจ้าชายกับนักร้องสาว เป่าจินจงสั่งเซ็ทห้องเก็บหัวสิงโต ที่ขนหัวสิงโตสวยราคารวมหลายแสนเข้าฉาก เด่นคุณกับแยมที่เพิ่งเจอกันต่างคนต่างพุ่งปรึกษาผู้กำกับเพราะถือเป็นฉากพบรักประทับใจกันครั้งแรกของพระนางฉากไม่ยาวแต่เน้นความพิถีพิถันทั้งความร้อน ทั้งมุมกล้องหลายคัทเพื่อภาพสวย ทำเอาพระนางคู่ใหม่ถึงกับเหงื่อท่วมเด่นคุณโดนเคี่ยวหนักเพราะต้องรับบทเจ้าชายมาดสุขุม ต่างจากตัวจริงที่ลิงเรียกพี่ จนผู้กำกับแอนดี้ ราชิตต้องคอยดึงสติให้มีมาด

            “ ยากครับ ยากตรงเป็นเจ้าชาย ต้องใช้สายตา ต้องยิ้มน้อยๆ ไม่โวยวาย ต้องใช้สายตาบอกอารมณ์อบอุ่นของเจ้าชาย” สำหรับนางเอกสาว แยม มทิรา ก็ถึงกับถอนใจเฮือก “เด่นคุณเค้าตั้งใจค่ะ เค้าพยายามเป็นเจ้าชาย  แต่ของหนูยากฉากเต้น ฉากถ่ายเอ็มวี โอ๊ย หนูเกร็งมาก ต้องเต้นเซ็กซี่ สะบัดๆ ไม่ใช่แนวหนู ยากตั้งแต่ร้องเพลงแล้ว หนูไม่ถนัดไม่เคยมั่นใจเลยก็ได้ไปเรียนมาแล้ว จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ ”

              เด่นคุณที่รับบทพระเอกนำครั้งแรก พูดถึงบทบาทเจ้าชายธาวิณดรณสกลสิทธิ์ “เรื่องนี้แสดงเป็นเจ้าชายครับ เจ้าชายผู้อบอุ่นแล้วก็ต้องลำบากเข้ามาเมืองไทย มาเป็นเด็กเชิดสิงโต มาเป็นนักร้อง มาทำหลายอย่างครับ เพื่อที่จะกลับไปชิงบัลลังก์ ได้มาเจอกับนางเอกครับ ตกหลุมรักนางเอก เป็นความน่าสนใจของสองสิ่งที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย อย่างเจ้าชายกับคนธรรมดาซึ่งคนธรรมดาอยู่คนละประเทศกันด้วย ไม่น่าจะมาเจอกันง่ายๆ แล้วเจ้าชายก็ไม่ใช่คนที่จะรักใครง่ายๆ เจ้าชายก็ต้องไปเจออะไรมากมายรู้จักคนที่ต่างชนชั้น ต่างสังคม ต่างที่มากันเป็นคนละโลกกัน เหมยนี่จะเป็นรักแรกพบ เจอกันครั้งแรกก็ชอบ ต่อมาก็จะพัฒนาไปเป็นความรักเพราะเราชอบที่เหมยเป็นคนดี เป็นคนรักครอบครัว เราเชื่อว่าในวันนึงเค้าจะมาดูแลท่านพ่อของเราได้ เหมยเป็นคนอดทน สู้กับงาน สู้กับชีวิตจริงๆเป็นลักษณะเดียวกับเราก็คือเราจะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เจ้าชายก็ไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนจะตกต่ำหรือจะต้องเป็นคนงาน สิ่งหนึ่งที่เจ้าชายจะมีก็คือกำลังใจที่ดีและจะไม่ยอมแพ้ เจ้าชายจะพูดทุกครั้ง ว่าเหมยทำได้ทุกอย่าง เหมยจะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของเขา มันเป็นความรักที่เป็นกำลังใจบวก เป็นรักที่ไม่ต้องการผลประโยชน์อะไร แค่ความรักที่อยากจะมอบให้กันแค่นั้น เตรียมตัวเรื่องนี้คือต้องฝึกเชิดสิงโตยิงปืน ขี่ม้าคิวบู๊ ร้องเพลง เล่นพิณที่ผมมีพื้นฐานจากกีตาร์อยู่แล้วเหมือนเรียนทฤษฎีเพื่อฝึกฝนทักษะ พอมาในกองคือปฏิบัติจริงเข้าฉากคือต้องทำให้ได้ อย่างตอนเรียนขี่ม้า ม้าไม่ดื้อ พอแสดงเค้าดื้อ เราก็ต้องพยายามขี่เค้าให้ได้ เรื่องนี้มีทั้งเป็นเจ้าชาย เป็นผู้ชายธรรมดาครบรสดีครับ เพราะว่าในแต่ละส่วนก็จะแตกต่างกันไป เหมือนโลกใบนี้ เหมือนชีวิตจริงแต่ละคนไม่เหมือนกัน มีสิ่งที่แตกต่างกันได้หมดทุกคน อาจจะมีคนที่มีอะไรคล้ายๆกัน แต่ก็ไม่ได้คล้ายกันไปหมด มันก็มีหลายรสชาติให้เห็น 

               จริงๆผมเล่นละครกับเป่าจินจง ผมไม่เหนื่อยนะครับ (ยิ้ม)ถึงต้องทำอะไรเยอะแยะ ผมบ้าพลังครับ พอได้ขยับแขนขยับขามันก็ไม่เหนื่อยละครับ ถ้าอยู่เฉยๆ นิ่งๆ เอื่อยๆ จะง่วง เรื่องนี้อาตู่ไม่ดุแล้วครับพี่แอนดี้ก็น่ารัก เค้าจะสอน เป็นคนที่เก่งเรื่องอารมณ์ เก่งสุดคือพี่แอนดี้รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ โชคดีเลยมีผู้กำกับสองคนเก่งคนละแบบ  

                ส่วนแยม - มทิรา ตันติประสุต กล่าวถึงบทบาทตัวเอง “ ในเรื่องเราชื่อเหมย มาจากคำว่าดอกเหมย ซึ่งเป็นดอกไม้จีนที่เปรียบเทียบว่าดอกไม้ที่อดทน เบ่งบานในยามที่หนาวที่สุด ต้องเจอวิบากกรรมเยอะแยะเต็มไปหมดเลยในวงการจะชื่อเมญ่า เป็นนักร้องค่อนข้างดังเลยดังมาก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่เป็นลูกสาวเจ้าของคณะสิงโตก็รักครอบครัว เป็นนักร้องที่กตัญญูต่อพ่อแม่ แต่ว่าแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก โตมากับพ่อ เป็นคนที่รักพ่อมากๆ คือยอมทุกอย่างเพื่อพ่อ รู้สึกว่ามีเสน่ห์ตรงนี้แหละคือความกตัญญูค่ะ ทำงานก็เพื่อครอบครัวแล้วก็มีความฝันอยากเป็นนักร้อง แล้วก็ทำสำเร็จ เป็นเด็กใสๆแล้วชีวิตก็พลิกเพราะมีเจ้าชายเข้ามาในชีวิต  มันเป็นอารมณ์ฟ้ากับดินนี่คือมุมมองของเรามุมมองของพ่อด้วยว่าเราคือฟ้าพระเอกคือดิน  แต่ในความเป็นจริงแล้วมันสลับกัน จริงๆแล้วแยมคือดิน ส่วนเด่นคือฟ้าเพราะเค้าเป็นเจ้าชายบังเอิญพรหมลิขิตทำให้เรามาเจอกันในคณะสิงโต  เจ้าชายจะรู้จักเหมยอยู่แล้วเพราะเราเป็นนักร้อง เค้ามาอยู่เพราะเค้าอยากอยู่ใกล้เหมยด้วย ต้องหนีซ่อนตัวด้วยมันก็คือในหลากหลายเหตุผล

               เป็นนักร้องมีชื่อเสียงที่มีแต่คนรัก แต่พอเจอกับปัญหาอุปสรรค อย่างเช่น เรื่องพ่อ เรื่องความรัก ตกต่ำ ตกอับ ต้องมาขายซาลาเปาแต่เราก็ทนได้มาตลอดเราก็ทำเพื่อพ่อ จริงๆเราเจออะไรเยอะมากๆ พ่อเป็นอัมพาต ความรักก็ไม่สมหวัง แต่ว่าเรามีกำลังใจรอบตัวทั้งญาติ ลูกพี่ลูกน้อง แล้วก็เจ้าชายก็ให้กำลังใจ เป็นตัวละครเหมือนชีวิตจริงนะ เหมือนชีวิตจริงของดาราคนหนึ่งที่เราสามารถเจอแบบนี้สูงสุดแล้วก็ต่ำสุด คือดาราก็มีความรู้สึกเราไม่ได้จำเป็นต้องไปรักไฮโซ ไปรักลีโอที่มีชื่อเสียงมันไม่ใช่แบบนั้นตลอด เราก็มีความรัก เรามีความรู้สึกที่รักใครก็ได้ไม่สนใจฐานะ ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเหมยมันเป็นเรื่องของกตัญญู รักพ่อ รักการทำงาน แล้วก็มีเรื่องในวงการบันเทิง ค่อนข้างจริงหมดเลย ค่อนข้างเหมือนชีวิตจริง คือแบบสกัดดาวรุ่งอะไรแบบนี้ค่ะ ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ดูแล้วจะมีภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิต ต้องเข้มแข็ง คือมันทำให้เห็นว่าถ้าเราเข้มแข็งเราก็สามารถผ่านทุกอุปสรรคได้ มันอยู่ที่ใจ”

                นอกจากเรื่องราวเข้มข้น ครบรส สนุกสนานแล้ว ดูจากรายชื่อนักแสดงก็บอกเลยว่าคนดูคุ้มมาก เพราะขนทัพนักแสดงมาแน่นทั้งนักแสดงรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก แน่นจอนอกจากเรื่องราวและนักแสดงแตกต่างสุดขั้วแล้ว “ดอกไม้ใต้เมฆ” ยังเป็นละครที่รวมสองผู้กำกับคนละขั้วไว้ด้วยกันอีก อาตู่ นพพล โกมารชุน พูดถึงละครไว้ว่า“เป็นความบันเทิงที่แปลกตา สนุกสนาน ได้อรรถรสของความรักหวานชื่น ความรักวัยรุ่นที่แฝงสาระคือการเป็นคนรักชาติ  รักแผ่นดินไว้ด้วย เป็นสิ่งที่มาคู่กัน  เป็นอารมณ์ที่ไม่เหมือนเรื่องอื่น” ส่วน แอนดี้ ราชิต ผู้กำกับใหม่ไฟแรงพูดถึงว่า “คนดูดูแล้วต้องถาม  มันคือละครอะไรกันแน่ ความน่าฉงนคือความน่าติดตาม  เพราะเรารวมหลายรสชาติไว้ในละครเรื่องนี้ครับ”

บทประพันธ์โดย  สิริพิรี  (ปรียานุช ปานประดับ)

กำกับการแสดงโดย  นพพล  โกมารชุน   /  แอนดี้  ราชิต  กุศลคูณสิริ 

บทโทรทัศน์   ณ รัก สราญอารมณ์

นำแสดงโดย

เด่นคุณ  งามเนตร  (เจ้าชายธาวินดรณ)

มทิรา  ตันติประสุต  (เหมย/เมญ่า)

เชตชวิน  ชูประทุม (ลีโอ)

พริมา   พันธุ์เจริญ  (จำปา)

วัทธิกร   เพิ่มทรัพย์หิรัญ  (อาหยาง)

การัญชิดา  คุ้มสุวรรณ  (หมิง)

ชลัฏ  ณ สงขลา (แทน)

ศรุต   วิจิตรานนท์ (บูรพาสมิง)

พิมพ์พรรณ  ชลายนคุปต์ (ระมิงค์เมือง)

บริบูรณ์   จันทร์เรือง (คิมมี่)

ฝันดี  จรรยาธนากร (เอกเอื้อ)

จตุรงค์   โพธาราม (เฮียโชค)

อนันต์   บุนนาค (เสี่ยอ๊อด)

สุทธิพงษ์   วัฒนจัง (เกรียงเพชร)

ดารณีนุช   ปสุตนาวิน (ลันตา)

สุมณทิพย์   เหลืองอุทัย (ไข่มุก)               

ธนา   สินประสาธน์ (กามิน)

ไปรมา   รัชตะ (เจ๊ง้อ)

ผู้แสดงรับเชิญ

นพพล   โกมารชุน (นายพลอินทรี)

ธีรพงศ์   เหลียวรักวงศ์ (เจ้าสัตยาสกลสิทธิ์)

อนุวัฒน์   นิวาตวงศ์ (นายพลภูผา)

ดร.ปนัดดา  วงศ์ผู้ดี (ดาราเลิศ)

กลศ  อัทธเสรี (นายพลขุนพล)

ธวัชวงศ์   ปิยะเกศิน  (นายพลสมชาติ)

ไกรลาศ   เกรียงไกร (ตาสุข)

ณัฐนี   สิทธิสมาน (ยายพร)

นนทิยา  จิวบางป่า (ครูนกกระจิบ)

สุธีศักดิ์    ภักดีเทวา (ครูอะตอม)

ธีระพล  หอมจม (สุ่น)

มนสิชา  เกิดโกสุม (ตันหยง)

พีรกันต์   เกียรติ์วรสกุล (หลักชัย)

สิรภพ  สมผล (จิณห์)

นันญ์จีรา  หาญวุฒินานนท์ (มินนี่)

และขอแนะนำหยดน้ำ  นัดดาภรณ์  นิวาตวงศ์  ลูกสาวคนสวยของ ปู อนุวัฒน์ นักแสดงคุณพ่อสุดหวงที่ยอมให้ลูกสาวชิมลางเล่นละครเรื่องแรกกับเป่าจินจง

 

ดอกไม้ใต้เมฆเริ่มตอนแรก วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2558  เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3  (ละครฉายศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์)